มากกว่าการเรียนรู้ในห้องเรียน คือการเรียนรู้ในโลกกว้าง วันนี้จะพาทุกคนบินลัดฟ้าไปเปิดประสบการณ์กับ 2 รุ่นพี่นิเทศรังสิต ที่มีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตต่างแดนในโครงการ Work and Travel
ธนานพ ศรีสมพร นักศึกษาสาขาวิชามัลติมีเดีย วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า แรงบันดาลใจของการที่อยากไปแลกเปลี่ยนในโครงการ Work and Travel ได้ดูคลิปวิดีโอในยูทูปเกี่ยวกับ Glacier National Park และเกิดแรงบัลดาลใจที่อยากจะไปเห็น Lake McDonald ด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต และด้วยความบังเอิญที่เอเจ้นท์ที่ผมเลือกสมัครไปนั้นมีที่ทำงานตั้งอยู่ใน Glacier National Park ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอเมริกาติดกับแคนนาดา รัฐ Montana หรือมีชื่อเล่นว่า Big sky country โดยตัว Glacier National Park ได้รับการขนานนามว่า “มงกุฎแห่งระบบนิเวศภาคพื้นทวีป” ผมจึงได้เตรียมตัวและหาข้อมูลประกอบหลายอย่างก่อนเดินทาง ตั้งแต่สถานที่ที่จะไปทำงาน ว่าอยู่รัฐไหน ทำงานอะไรได้ค่าแรงเท่าไหร่ ค่ากินอยู่ ที่พัก การจัดกระเป๋า การสัมภาษณ์งานกับนายจ้างต่างชาติ และขั้นตอนการยื่นเอกสารต่างๆ กับทางสถานทูตอเมริกา
“สำหรับตำแหน่งที่ผมได้เลือกทำงานคือ Housekeeper หรือแม่บ้านโรงแรม โดยหลักๆ จะทำความสะอาดฆ่าเชื้อห้องพัก Make Up room ปูเตียงจัดของให้เข้าที่ ทั้งแบบที่เป็น cabin ห้อง motel และห้องในโรงแรม โดยจะทำงานกันเป็นทีม โดยตอนที่ออกไป hiking และถ่ายรูปทำให้มีรูปสวยๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำมากมาย ซึ่งตรงนี้เราได้นำสกิลจากการเรียนนิเทศมาทำคอนเทนต์บ้าง นับเป็นความทรงจำที่ดีมากๆ และได้เห็นวิวที่สวยที่สุดในชีวิตเช่นกัน ซึ่งสำหรับผมการได้ไป work and travel คือการที่เราได้ออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองครั้งแรก เป็นการสร้างความทรงจำดีๆ ได้มิตรภาพที่ดี ได้เปิดมุมมองชีวิตใหม่ๆ หลังจากกลับมาผมรู้สึกเลยว่าเข้ากับคนได้ง่ายมากขึ้น และสิ่งสำคัญคือได้ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารมากขึ้นด้วย” ธนานพ กล่าวเพิ่มเติม
ด้าน ลัทธพล เสาร์ศิริ นักศึกษาสาขาวิชาการประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า แรงบันดาลใจของการไปแลกเปลี่ยนในโครงการ Work and Travel คือการที่อยากลองทำอะไรใหม่ๆ อยากออกจากอะไรเดิมๆ ที่เป็นอยู่ Come out of comfort zone โดยช่วงที่เราไปคือช่วงปลายปี 2021 ยังมีการระบาดของโควิด-19 และตอนนั้นยังมีการเรียนออนไลน์ ซึ่งการที่เราต้องเรียนออนไลน์อยู่บ้าน ทำให้รู้สึก Burn Out มากๆ ไม่มีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตเลย เราต้องการลองทำอะไรใหม่ๆ และออกจากอะไรเดิมๆ จึงตัดสินใจที่ไป Work and Travel ที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาซูเซตส์ โดยไปทำงานที่ McDonald’s ตำแหน่ง Crew Members โดยเราต้องทำเป็นได้ในทุกส่วนทั้งหน้าบ้าน Front ไม่ว่าจะเป็น Cashier, Fires maker, Soft serve & Drink และ Packer ส่วน Back คือ Sandwich maker ทอดหรือเรียกง่ายๆ คือทำอาหาร แต่ร้านของเราตั้งอยู่ใน South Staion ซึ่งไม่มีโต๊ะให้เสริ์ฟ ทำให้ตัดหน้าที่ Server ออกไป โดยหน้าที่หลักที่ได้รับมอบหมายคือการเป็น Cashier เป็นหลัก คือต้องรับ Order แก้ไขปัญหาหน้าร้าน พูดคุย สื่อสารกับลูกค้า ส่งออเดอร์ และมีในบางวันที่ได้เป็น Cashier, Fires maker, Soft serve & Drink และ Packer
“สำหรับสกิลความรู้ที่นำไปปรับใช้ในการเปิดประสบการณ์ต่างๆ แดนครั้งนี้คือ คือได้ใช้เรื่องการสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นหลัก ได้ใช้ทักษะด้านการวิเคราะห์ และกลยุทธ์ที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจในการบริการของเรา เพราะอย่างที่บอกไปว่าได้ทำหน้าที่เป็น Cashier เท่ากับเป็นด่านแรกที่ลูกค้าจะต้องเจอ และเปรียบเสมือนเราเป็นหน้าตาขององค์กร โดยในเวลาที่พูดคุย สื่อสาร หรือรับออเดอร์ เราจะต้องสังเกตคนที่เราให้บริการว่า เขาบุคลิกแบบไหน มีความต้องการอะไร สื่อสารอย่างไรกับเขาได้บ้าง โดยที่แมคฯ เน้นเรื่องการบริการให้มีความรวดเร็ว ทันเวลา และสร้างรอยยิ้มให้กับลูกค้า ซึ่งนั่นคือหัวใจหลักที่แมคฯ ต้องการให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกผ่านการบริการ หรือการแก้ไขปัญให้กับลูกค้าของเรา ที่ต้องทำให้รวดเร็ว กระชับ และต้องรู้สึกประทับใจในการพูดคุย จนได้รอยยิ้มกลับไป นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาเรื่องความมีวินัย ตรงต่อเวลามากขึ้น เพราะการทำงานเป็นทีม ทุกคนในทีมมีความสำคัญเท่ากันหากขาดใครไปจะส่งผลต่อผลลัพธ์ของงานเสมอ สุดท้ายคือการเรียนรู้ที่จะอยู่รวมกับผู้อื่น และการปรับตัวกับสังคมใหม่ๆ ได้เสมอ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็จะปรับตัวและใช้ชีวิตได้ทุกที่ในโลก” ลัทธพล กล่าวเพิ่มเติม
ต้องบอกเลยว่า Work and Travel Program เป็นโครงการที่ดีมากๆ สำหรับใครที่อยากได้ประสบการณ์ การใช้ชีวิตในต่างประเทศ เตรียมตัวเองให้พร้อม หาข้อมูลประเทศที่อยากไป ฝึกฝนเรื่องภาษา เพื่อให้พร้อมออกไปเปิดประสบการณ์หน้าใหม่ให้กับชีวิตในโลกกว้าง
#https://edu-today.com/